คุยกันได้สักพักใหญ่ๆผมสังเกตุเห็นคุณยายเริ่มไว้ใจ เชื่อถือ และถูกคอกันเพิ่มมากขึ้นตามลำดับและแล้วผมจึงได้เอ่ยปากขอคัมภีร์ที่ผมกำลังถืออ่านอย่างตั้งใจอยู่ในมือเล่มนี้ทันที มีแต่คนเขามาขอยาที่ปรุงแล้วไปกินกันทั้งนั้น นี่ขอคัมภีร์ดีเหมือนกันจะได้มีคนเผยแพร่ไม่ให้สูญหายคุณยายพูดด้วยถ้อยคำที่ยินดี ผมรับไว้ด้วยความดีใจตื่นเต้นกับคัมภีร์สรรพคุณยาโบราณที่ไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน และไม่เคยเป็นเจ้าของเลยในช่วงชีวิตนี้
วันนี้ผมแสดงเจตนาที่จะให้คัมภีร์สรรพคุณยาโบราณนั้นได้อยู่คู่กับปวงชนตลอดจนลูกหลานชาวไทยไม่ให้สูญหายไร้ค่าไป โดยจะรักษาถ้อยคำโบราณไว้คงเดิมมิให้เปลี่ยนแปลงไปตามสมัย หวังว่าคงมีประโยชน์ต่อผู้ที่มีความสนใจศึกษา ทำความเข้าใจมีความคิดที่จะปรุงยาไว้รับประทานเองไม่มากก็น้อย คัมภีร์สรรพคุณยาโบราณ บอกวิธี สรรพคุณชื่อ สรรพคุณสัณฐาน สรรพคุณตามพิกัด สรรพคุณต่างประเทศ สรรพคุณเทียบ สรรพคุณยาหมู่ สรรพคุณกระสายยา มีรายละเอียดสรรพคุณยาดังที่ผมจะเสนอต่อไปนี้ครับ
สรรพคุณยา
คัมภีร์สรรพคุณยาเป็นสิ่งสำคัญประการหนึ่งที่หมอจะต้องเรียนรู้ ไม่เช่นนั้นก็ไม่รู้จักในการที่จะประกอบยาแก้ไข้ตามส่วน หรือว่าไม่รู้จักชักถอนและเพิ่มเติมให้ถูกต้องตามลักษณะ อาการไข้เพราะการแก้โรคต้องแก้ให้ถูกต้องตามรสแห่งยาเหตุที่ยาก็มีหลายรสโรคก็มีหลายอย่างด้วยกัน
เพราะฉะนั้นท่านจึงกล่าวไว้ว่าสรรพคุณยาเป็นสมบัติของหมอส่วนหนึ่ง ท่านจึงจัดเป็น ๓ ประเภทคือ ประเภท๒ ประเภท๔ ประเภท๙ และท่านจัดรสยาตามประเภทเป็น๓ ขึ้นตั้งเป็นประธานก่อนคือ:- ๑ รสยาเย็น ๒ รสยาร้อน ๓ รสยาสุขุม รวมเป็น ๓ ประเภท ในประเภทหนึ่งๆท่านประมวลไว้ดังนี้
๑. รสยาเย็น ได้แก่จำพวกเกษรดอกไม้ต่างๆ ใบไม้บางชนิดที่ไม่ร้อน สัตตะเขา เนาวเขี้ยวและของชำระเผาให้เป็นถ่านแล้วปรุงขึ้นเป็นยา เป็นต้นว่า ยามหานิล ยามหากาฬ สำหรับแก้ในทางเตโชธาตุฯ
๒. รสยาร้อน ได้แก่จำพวกเบญจกูลหรือตรีกะตุก ตรีสาร หัสคุณ ขิง ข่า ไพล ปรุงขึ้นเป็นยา เช่นยาเหลืองต่างๆ สำหรับแก้ในทางลมเป็นต้น
๓. รสยาสุขุม ได้แก่จำพวก โกฏฐ์ทุกชนิด เทียนทุกชนิด กฤษณา กะลำภัก ขอนดอก ชะลูด อบเชยเป็นต้น ปรุงขึ้นเป็นยาเช่น ยาหอมต่างๆสำหรับแก้ในทางโลหิตฯ
ท่านจัดประเภทเป็น ๔ ตามธาตุดังนี้
๑. รสยา ฝาด เค็ม หวาน มัน ชอบโรคอันเกิดเพื่อ ปฐวีพิการฯ (ปฐวีหมายถึงดิน)
๒. รสยา ขม เปรี้ยว เมา ชอบโรคอันเกิดเพื่ออาโปธาตุพิการฯ(อาโปหมายถึงน้ำ)
๓. รสยา เย็น จืด ชอบโรคอันเกิดเพื่อเตโชธาตุพิการฯ ( ปฐวีธาตุ = ธาตุดิน ๒. อาโปธาตุ = ธาตุนํ้า ๓. เตโชธาตุ = ธาตุไฟ ๔. วาโยธาตุ = ธาตุลม. )
ท่านจำแนกรสยาไว้เป็น ๙ ตามลักษณะดังนี้
๑. รสยาฝาด ชอบสมาน
๒. รสยาหวาน ชอบซึมซาบตามเนื้อ
๓. รสยาเมาเบื่อ ชอบแก้พิษ
๔. รสยาขม ชอบแก้ทางโลหิต
๕. รสยาเผ็ด ร้อน ชอบแก้ลม
๖. รสยามัน ชอบแก้เส้นเอ็น
๗. รสยาหอม เย็น ชอบชื่่นใจ
๘. รสยาเค็ม ชอบซาบไปตามผิวหนัง
๙. รสเปรี้ยว ชอบกัดเสมหะ